5 ขั้นตอนง่ายๆ เลือกซื้อตู้เครื่องมือช่าง


คุณกำลังหาซื้อตู้เครื่องมือช่าง แต่เลือกไม่ถูกอยู่หรือไม่? บทความนี้เรามีข้อสรุปขั้นตอนในการเลือกตู้เครื่องมือช่าง ให้เหมาะกับการใช้งานให้คุณ


1. เลือกตู้เก็บเครื่องมือโดยคำนึงถึงความสามารถรองรับ " น้ำหนัก " เครื่องมือที่จัดเก็บ


เนื่องจากเครื่องมือของแต่ละโรงงาน อู่ หรือการใช้งานต่างๆนั้นแตกต่างกัน สิ่งที่จัดซื้อหรือช่างควรพิจารณา คือ เครื่องมือของเรานั้น เป็นเครื่องมือช่างทั่วไป รับน้ำหนักไม่เยอะ หรือ เครื่องมือพิเศษ ที่ใหญ่ และน้ำหนักเยอะ เครื่องมือช่างราคาสูง ก็ต้องจัดเก็บ และดูแลเป็นพิเศษ ซึ่งสามารถแบ่ง ประเภทการรับน้ำหนักตู้เก็บเครื่องมือช่าง 2 ประเภทหลัก ดังนี้ 1. ตู้เก็บเครื่องมือมาตรฐาน (Standard Duty Tool Cabinet) สามารถรับน้ำหนักมาตราฐานอยู่ที่ 50 กิโลกรัมซึ่งเหมาะกับเครื่องมือทั่วไป สามารถแบ่งตามประเภทงานได้แก่  ตู้เก็บเครื่องมือช่าง ตู้เก็บเครื่องมือติดล้อ ตู้เก็บเครื่องมือพร้อมลิ้นชัก ตู้เก็บเครื่องมือพร้อมชั้นวาง ตู้เก็บเครื่องมือพร้อมประตู และ ตู้เก็บของอเนกประสงค์ 2. ตู้เก็บเครื่องมืองานหนัก (Heavy Duty Tool Cabinet) สามารถรับน้ำหนักได้สูงสุด 200 กิโลกรัม เหมาะกับเครื่องมือช่างที่มีน้ำหนักเยอะ แบ่งได้เป็น 2 ประเภทหลัก ตู้เก็บเครื่องมืองานหนัก และ ตู้เก็บเครื่องมืองานหนักติดล้อ 


ทั้งนี้ทั้งนั้น การเลือกน้ำหนักที่ไม่เหมาะสมกับงาน อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุในระหว่างที่ทำงานได้ เช่น ตู้ล้มทับเครื่องมือเสียหาย หรือ ก่อให้เกิดอันตรายต่อช่างได้



2. เลือกตู้เก็บเครื่องมือแบบตั้งพื้นหรือติดล้อดีกว่ากัน? 


การเลือกตู้เก็บเครื่องมือช่างควรพิจารณาจากพื้นที่การทำงาน ไม่ว่าจะเป็นไลน์การผลิต โรงงาน หรือสถานที่ทำงาน รวมถึงพื้นที่มีอย่างจำกัด การเลือกประเภทตู้ให้เหมาะสมกับสถานที่คือการจัดสรรพื้นที่ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและคุ้มค่ามากที่สุด ซึ่งสามารถแบ่งประเภทการเคลื่อนย้ายตู้เก็บเครื่องมือช่าง 2 ประเภทหลัก ดังนี้ 1 ตู้เก็บเครื่องมือตั้งพื้น (Standing Tool Cabinet) ทำให้การรับน้ำหนักได้เยอะขึ้น แข็งแรง ทนทาน มั่นคง มีระบบล็อกที่แน่นหน้้า ซึ่งตู้เก็บเครื่องมือตั้งพื้นยังแบ่งตามประเภทงานได้อีก ได้แก่ ตู้เก็บเครื่องมือช่าง ตู้เก็บเครื่องมืองานหนัก ตู้เก็บเครื่องมือพร้อมลิ้นชัก ตู้เก็บเครื่องมือพร้อมชั้นวาง ตู้เก็บเครื่องมือพร้อมประตู และ ตู้เก็บของอเนกประสงค์ และ 2 ตู้เก็บเครื่องมือติดล้อ (Mobile Tool Cabinet) เคลื่อนย้ายสะดวก เหมาะกับการที่ต้องย้ายพื้นที่การทำงานซ่อมบำรุงอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งฟังก์ชั่นของตู้เก็บเครื่องมือติดล้อจะอำนวยความสะดวกในงานช่างได้มากหากต้องย้ายตำแหน่งการทำงาน ซึ่งสามารถแบ่งได้เป็น 2 ประเภทหลัก ได้แก่    ตู้เก็บเครื่องมือติดล้อ และ ตู้เก็บเครื่องมืองานหนักติดล้อ



3. เลือกตู้เก็บเครื่องมือตามออฟชั่นเสริม


การพิจารณาเลือกจากออฟชั่นเสริมหรืออุปกรณ์เสริมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของท่านได้ดีขึ้น อีกหนึ่งตัวเลือกที่ขอแนะนำท่านคือ ตู้เก็บเครื่องมือพร้อมแผงแขวน (Hanging Panel Tool Cabinet) ซึ่งสามารถอำนวยความสะดวกต่อการจัดเก็บและการหยิบจับเครื่องมือในเวลาที่ท่านต้องการใช้งาน



4. เลือกตู้เก็บเครื่องมือตามรูปแบบการจัดเก็บรักษาเครื่องมือ


ในการพิจารณาเลือกตู้เก็บเครื่องมือโดยคำนึงจากขนาดและปริมาณเครื่องมือหรืออุปกรณ์ทำงานของคุณสามารถช่วยให้การจัดเก็บเครื่องมือของคุณคุ้มค้าและไม่สิ้นเปลือง เช่น เครื่องมือเล็ก ไม่ใหญ่ จัดเรียงใส่ลิ้นชัก ควรเลือก ตู้เก็บเครื่องมือพร้อมลิ้นชัก หากคุณเครื่องมือเยอะ มีหลากหลายขนาด ใช้แบบ แขวน และช่องเก็บเครื่องมือขนาดใหญ่ มีความหลากหลายในการจัดเก็บที่มากกว่า แบบแรก ควรเลือก ตู้เก็บเครื่องมือช่าง (ที่มาพร้อมกล่องอะไหล่และรูแขวนอุปกรณ์) หากคุณต้องการเก็บเครื่องมือที่มีขนาดใหญ่ คุณควรเลือกใช้ ตู้เก็บเครื่องมือพร้อมชั้นวาง หรือ ตู้เก็บเครื่องมือพร้อมประตู ซึ่งตู้ทั้งสองประเภทมีชั้นวางสำหรับการจัดเก็บที่คุณสามารถปรับเลื่อนระดับของความสูงระดับชั้นได้นั่นเอง



5. เลือกตู้เก็บเครื่องมือตามลักษณะฟังก์ชั่นพื้นฐาน


  1. อีกแนวทางการเลือกตู้เก็บเครื่องมือช่างนั่นคือ การเปรียบเทียบลักษณะฟังก์ชั่น สเปคของตู้ ที่โดดเด่นได้ชัดเนื่องจากตู้เก็บเครื่องมือช่างที่ออกแบบมาตามการใช้งานส่วนใหญ่จะมีฟังก์ชั่นที่มารองรับการใช้งานของช่างนั่นเอง ยกตัวอย่างเช่น ตู้เครื่องมือที่มีฟังก์ชั่นการล็อคตู้ เพื่อป้องกันการสูญหายของเครื่องมือ ได้แก่ ตู้เก็บเครื่องมือพร้อมประตู และ ตู้เก็บของอเนกประสงค์ เป็นต้น ระบบรางเลื่อน หรือ จะเป็นระบบแบบรางลูกปืน ที่มากับตู้ที่มีลิ้นชักเสมอ เนื่องจากอุปกรณ์ที่มีน้ำหนักที่เยอะ ลิ้นชักที่มีระบบรางลูกปืนจะช่วยอำนวยให้ลิ้นชักสไลด์ออกมาได้ไวและง่ายขึ้น ได้แก่ ตู้เก็บเครื่องมือพร้อมลิ้นชัก
  2. วัสดุในการผลิต ตู้ที่ผลิตจากเหล็กหนาแข็งแรง หรือ วัสดุเหล็กธรรมดา สามารถช่วยให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้นโดยพิจารณาจากแบรนด์ยี่ห้อของตู้ หรือ ใบรับรองการผลิตของตู้ที่ท่านกำลังสนใจอยู่ในขณะนั้น



        การเลือกซื้อตู้เก็บเครื่องมือช่างที่เหมาะสมไม่ใช่เรื่องยาก หากคุณรู้จักพิจารณาตามขั้นตอนที่เราแนะนำ เริ่มจากการกำหนดความต้องการ ประเมินพื้นที่ใช้งาน ตรวจสอบวัสดุและความทนทาน รวมถึงฟังก์ชันการใช้งานต่างๆ ที่เหมาะสมกับงานช่างของคุณ เพียงเท่านี้คุณก็สามารถเลือกตู้เก็บเครื่องมือที่ตอบโจทย์และคุ้มค่ากับการลงทุนได้อย่างแน่นอน ตู้ที่ดีจะช่วยจัดระเบียบเครื่องมือช่างได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพิ่มความสะดวกและประสิทธิผลในการทำงานของคุณในทุกๆ วัน

Copyright ® 2022 Factory9001.comAll rights reserved.