คุณกำลังหาซื้อตู้เครื่องมือช่าง แต่เลือกไม่ถูกอยู่หรือไม่? บทความนี้ผมจะสรุปขั้นตอน ในการเลือกตู้เครื่องมือช่าง ให้เหมาะกับการใช้งาน
เพราะเครื่องมือของแต่ละโรงงาน อู่ หรือการใช้งานต่างๆนั้นแตกต่างกัน สิ่งที่จัดซื้อหรือช่างควรพิจารณา คือ เครื่องมือของเรานั้น เป็นเครื่องมือช่างทั่วไป รับน้ำหนักไม่เยอะ หรือ เครื่องมือพิเศษ ที่ใหญ่ และน้ำหนักเยอะ เครื่องมือช่างราคาสูง ก็ต้องจัดเก็บ และดูแลเป็นพิเศษ
1. แบบ Standard Duty ที่รับน้ำหนักมาตราฐานอยู่ที่ 50 กิโลกรัม/ ลิ้นชัก ก็จะเหมาะกับเครื่องมือทั่วไป
2. แบบ Heavy Duty ที่รับน้ำหนักได้สูงสุด 200 กิโลกรัม/ ลิ้นชัก เหมาะกับเครื่องมือช่าง ที่มีน้ำหนักเยอะ
** เลือกน้ำหนักไม่เหมาะสม อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุ ในระหว่างการทำงาน ตู้ล้มทับ เครื่องมือเสียหาย เกิดอันตรายต่อช่าง
ให้พิจารณาจากพื้นที่การทำงาน ไม่ว่าจะเป็นไลน์การผลิต โรงงาน หรือสถานที่ทำงาน
2.1 แบบตั้งพื้น ทำให้การรับน้ำหนักได้เยอะขึ้น มั่นคง รับรองไม่มีหาย เพราะไม่มีใครเข็นหนีหายไปไหนแน่นอน
2.2 แบบติดล้อ เคลื่อนย้ายสะดวก เหมาะกับ การที่ต้องย้ายพื้นที่การทำงาน /ซ่อมบำรุงบ่อย ซึ่งก็จะทำให้ ราคาหรืองบประมาณต้องเพิ่มสูงขึ้น
ออฟชั่นเสริมของตู้เครื่องมือช่าง ก็จะมีติดแผงแขวนเครื่องมือเสริม หรือจะเพิ่มเป็นแผงแขวนเครื่องมือที่ปิดล็อคได้ ให้พิจารณาว่า เราเลือกเสริมออฟชั่น จะคุ้มค่ากับการลงทุนหรือไม่
3.1 ทำให้การทำงานลดเวลาลงหรือไม่
3.2 สะดวกสบายขึ้น หยิบ จับ เครื่องมือสะดวกขึ้นหรือไม่
4.1 แบบที่ 1 เครื่องมือเล็ก ไม่ใหญ่ จัดเรียงใส่ลิ้นชัก
4.2 แบบที่ 2 เครื่องมือเยอะ มีหลากหลายขนาด ใช้แบบ แขวน และช่องเก็บเครื่องมือขนาดใหญ่ มีความหลากหลายในการจัดเก็บที่มากกว่า แบบแรก
4.3 แบบที่ 3 เครื่องมือช่างขนาดใหญ่ ต้องใช้เป็นตู้เหล็กเก็บเครื่องมือช่าง
5.1 ตู้เครื่องมือมีฟังก์ชั่นการล็อคตู้ไหม เพื่อป้องกันการสูญหายของเครื่องมือ
5.2 ระบบรางเลื่อนมีความสำคัญอย่างมาก ระบบธรรมดาทั่วไป หรือจะเป็นระบบแบบรางลูกปืน เนื่องจากน้ำหนักเยอะ รางลูกปืนจะได้เปรียบในการสไลด์ลิ้นชัก ออกมาได้ ไวขึ้น ง่ายขึ้น
5.3 วัสดุในการผลิต เป็นเหล็กหนาแข็งแรงหรือไม่ วัสดุเหล็กธรรมดา ถ้าคุณเลือกเกรดโรงงานอุตสาหกรรม คุณจะได้เหล็กที่หนาแข็งแรงกว่า ทนกว่า อายุการใช้งานที่นานกว่า