3 วิธีเลือกซื้อโต๊ะช่าง ให้เหมาะสมกับน้ำหนักงาน


หลากหลายท่านถามคำถามใน INBOX มาว่าโต๊ะช่างรับน้ำหนักได้เท่าไหร่บ้าง ควรจะเลือกเท่าไหร่ดี มีเกณฑ์อะไรหากเลือกซื้อโต๊ะช่าง สำหรับบทความนี้เรามี 3 วิธีที่ทำให้คุณเข้าถึงโต๊ะช่างได้ตามความต้องการ


1. ใช้โต๊ะทำงานอะไร


หากเราไม่รู้จะเริ่มต้นจากอะไร ให้คุณคิดไว้เสมอว่าคุณจะซื้อโต๊ะช่างไปใช้งานอะไร จากความคิดที่กว้างๆ ก็จะสโคบให้แคบลงได้ประมานหนึ่งแล้วครับ แถมยังตรงโจทย์ต่อผู้ใช้งานมากขึ้นอีกด้วย เพราะโต๊ะที่รองรับน้ำหนักต่างๆ มีเกณฑ์การใช้งานที่แตกต่างกันไป เช่น ผมต้องการซื้อให้บรรดาช่างไว้ใช้งานสำหรับอู่ซ่อมรถยนต์ การใช้งานก็ต้องรองรับน้ำหนักมากหน่อย แปลว่า โต๊ะช่างที่รองรับน้ำหนัก 2 ตัน และ 600 กิโลกรัม จะมาเป็น 2 ตัวเลือกแรก เพราะงั้นการเริ่มต้นด้วยการใช้งานอะไรควรเป็นตัวเลือกแรกๆ เลยครับ


2. ดูงบประมาณที่เรามี


ก็คงต้องขอพูดกันตรงๆว่า หากเราจะเลือกซื้ออะไรซักอย่างที่สามารถงานใช้งานได้ยาวนานและเกิดความคุ้มค่าต่อเม็ดเงินของเรานั้น ก็ควรจะดูงบประมาณที่เรามีเป็นตัวเลือกถัดมา เราควรจะมีงบที่ตั้งเกฑณ์มาตรฐานไว้ก่อน เช่น ฉันมีงบประมาน 50,000 บาท และนำคำตอบจากข้อที่ 1 จะทำให้ตัวเลือกเราน้อยลงไปอีก จากตัวเลือก 10 โต๊ะก็อาจจะลดลงเหลือ 5 โต๊ะได้เช่นกันครับ



3. ลีนสิ่งที่ไม่จำเป็นออก


หลังจากเราทำผ่านทั้งข้อ 1 และ 2 เสร็จเรียบร้อยแล้ว เราจะมาลีนกันอีกรอบเพื่อให้แคบลงไปอีกครับผม ผมจะยกตัวอย่างให้คิดตามกันอย่างนี้นะครับว่า หากเราได้โต๊ะช่างที่รองรับน้ำหนัก 2 ตันและ 600 กิโลกรัมแล้ว นำมาหักลบด้วยงบประมานแล้ว ให้เราเลือกโต๊ะช่าง 3 อันดับแรกที่ตอบโจทย์เราที่สุด ยกตัวอย่างเช่น โต๊ะช่างท็อปยางรองรับน้ำหนัก 2 ตัน, โต๊ะช่างท็อปยางรองรับน้ำหนัก 600 กิโลกรัม, โต๊ะช่างท็อปเหล็กรองรับน้ำหนัก 2 ตัน พอเราดูจากประสบการณ์การใช้งานจริงๆ แล้ว ความจำเป็นของเราควรจะใช้ถึง 2 ตันไหม ถ้าเรายังซ่อมทั่วไปและสิ่งที่ซ่อมมีน้ำหนักบวกกับอุปกรณ์แล้วก็ยังไม่เกิน 600 กิโลกรัม แปลว่าเราควรจะเอาตัวเลือก 2 ตันออก ทำให้ตัวเลือกเราจะเหลือแค่โต๊ะช่างยางรองรับน้ำหนัก 600 กิโลกรัม จะตรงโจทย์เรามากที่สุด


3 เกณฑ์การเลือกนี้จะช่วยให้คุณเข้าถึงโต๊ะช่างได้ตรงโจทย์มากที่สุดและเกิดความคุ้มค่าต่อการใช้งานในระยะยาวครับ


Copyright ® 2022 Factory9001.comAll rights reserved.